จับโรงซักรีดใช้แก็สกลางชุมชนไม่ได้รับอนุญาติประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 หวั่นหตุระเบิดหลังเกิดที่นนทบุรี

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 11 ต.ค.พ.ต.ท.พรเทพ ไชยมาตย์ รอง.ผกก.สส.สภ.รัษฎา จ.ตรัง-ชุดเฉพาะกิจ พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผช.ผบ.ตร.นำกำลังชุด ปนม.ตร.ได้เข้าตรวจสอบโรงงานภูเก็ตซักรีด ซ.บางชีหล้า ถ.เทพกระษัตรี ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต   ตามนโยบายการควบคุมสถานประกอบการประเภทต่างๆที่ใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว หลังเกิดเหตุร้านซักอบรีด ระเบิดที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มีผู้บาดเจ็บ 7 คน

 พบผู้ดูแลโรงงานนำใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานลำดับที่ 98 ประกอบกิจการซักรีดเสื้อผ้า ออกโดย  กระทรวงอุตสาหกรรมเมื่อเดือน มี.ค.36 มาแสดงกับเจ้าหน้าที่ แต่จากการตรวจสอบภายในโรงงาน พบถังบรรจุก๊าซยูนิคแก๊สขนาดบรรจุ 48 กก.วางอยู่เป็นจำนวนมาก จึงขอตรวจสอบใบอนุญาตกิจการควบคุมประเภท 3 ซึ่งใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่มีปริมาณ 1,000 ลิตรขึ้นไป ปรากฏว่าไม่มีใบอนุญาต จึงนำตัวนายคเชนทร์ ชาครีย์เวส อายุ 42 ปี ผู้ดูแลโรงงานไปสอบสวนพร้อมแจ้งข้อหาเป็นผู้ประกอบกิจการควบคุมประเภท 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต (สถานที่ซึ่งใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่มีปริมาณ 1,000 ลิตรขึ้นไป)    

ขณะเดียวกันเมื่อช่วงเย็นวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา ชุดเฉพาะกิจ พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผช.ผบ.ตร.นำกำลังชุด ปนม.ตร.ได้เข้าตรวจสอบโรงงานซักรีด ห้างหุ้นส่วนจำกัดบางใหญ่ลอนดรี หมู่ 5 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังสืบทราบว่าสถานที่ดังกล่าวมีการใช้ก๊าซ-ปิโตรเลียมเหลว ซึ่งต้องมีการใบอนุญาตในการใช้จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีนายเรืองวิทย์ จันทรวัต อายุ 50 ปี ผู้ดูแลโรงงานนำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พบถังบรรจุก๊าซยี่ห้อยูนิคแก๊ส ขนาดบรรจุ 48 กก.พร้อมน้ำก๊าซจำนวน 20 ถัง รวมเป็นน้ำก๊าซจำนวน 960 กก.คิดเป็นลิตร 1,796 ลิตร จากนั้นได้ตรวจสอบใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 สถานที่ซึ่งใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่มีปริมาณ 1,000 ลิตรขึ้นไป ปรากฏว่าไม่มีใบอนุญาต จึงอายัดของกลางที่ตรวจพบพร้อมควบคุมนายเรืองวิทย์ไปสอบสวน เพื่อดำเนินคดีในข้อหาเป็นผู้ประกอบกิจการควบคุมประเภท 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต (สถานที่ซึ่งใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่มีปริมาณ 1,000 ลิตรขึ้นไป) โดยในชั้นจับกุมนายเรืองวิทย์ให้การสารภาพ