ที่ปรึกษา สบ.10”ธรรมศักดิ์”เปิดศูนย์พิทักษ์เด็กแห่งประเทศไทย ภูเก็ต แห่งที่ 3 ของประเทศหวังช่วยตำรวจสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีกับผู้ทำผิด-ดูแลความเป็นอยู่ของเด็กและเยาวชนที่ตกเป็นผู้เสียหายไม่ให้กลับคำให้การ

เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.พ.ต.อ.ษณกร มั่นเมือง ผกก.สส.1 บก.สส.ตำรวจภูธรภาค 8-หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการ TICAC ชุดที่ 5 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ ที่ปรึกษา (สบ.10) สตช.พร้อมด้วย พล.ต.ต.ดำรัส วิริยะกุล รอง.ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.ชินรัตน์ ฤทธาคณานนท์ ผบก.สส.ภาค 8 พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ร.ต.อ.บุญทบ ล้านทอง อัยการจังหวัดภูเก็ต ตัวแทนสถานทูตสหรัฐอเมริกา อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลียและเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย เจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายจากหน่วย FBI และ HSI ตลอดจนมูลนิธิและภาคเอกชนที่ให้การสนับสนุนได้ร่วมกันเปิดเปิดศูนย์พิทักษ์เด็กแห่งประเทศไทย (ภูเก็ต) แห่งที่ 3 ของประเทศว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ สตช.ได้ร่วมกับมูลนิธิฟอร์ฟรีดอมอินเตอร์เนชั่นแนล สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนที่ไม่แสวงหากำไร ที่ช่วยเหลือผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ จึงได้จัดตั้งศูนย์พิทักษ์เด็กแห่งประเทศไทย (ภูเก็ต) ขึ้น เพื่อสนองนโยบายรัฐบาลในการป้องกันปราบปรามแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ รวมถึงการกระทำอันใดก็ตามที่ละเมิดต่อเด็กและเยาวชนในประเทศไทย มุ่งเน้นช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนดำเนินคดีต่อผู้ประทำความผิด โดยเริ่มกระบวนการสืบหาพยานหลักฐานจนนำไปสู่กระบวนการจับกุมตัว รวมถึงดูแลความเป็นอยู่ของเด็กและเยาวชนที่ตกเป็นผู้เสียหายไม่ให้กลับคำให้การ เพื่อประสานการทำงานแบบบูรณาการทั้งในและต่างประเทศ

ด้าน พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ ที่ปรึกษา (สบ.10) สตช.กล่าวว่า การจัดตั้งศูนย์พิทักษ์เด็กแห่งประเทศไทย ภูเก็ตในครั้งนี้ นับเป็นแห่งที่ 3 ของประเทศไทย หลังจากเปิดแห่งแรกที่ จ.เชียงใหม่ และแห่งที่ 2 ที่เมืองพัทยา ทั้งนี้เพื่อช่วยส่งเสริมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สืบสวน รวมถึงการดูแลผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในชั้นสอบสวน การติดตามคดีในชั้นอัยการและศาล ตลอดจนประสานความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทีมสหวิชาชีพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานเอกชน ถือเป็นการดำเนินตามนโยบายของรัฐบาลในการขจัดปัญหาการค้ามนุษย์ในประเทศไทย